Louis Vuitton แแบรนด์นี้ใคร ๆ ก็คุ้นหู เพราะเป็นแบรนด์เนมคลาสสิคยอดนิยมในใจของนักช้อปหลายท่าน และยังเป็นแบรนด์เครื่องหนังเก่าแก่ตั้งแต่ในอดีตที่มีคุณค่าความสวยงามยาวนานส่งต่อมาถึงปัจจุบัน แต่ใครเล่าจะรู้ว่าจุดเริ่มต้นของแบรนด์นี้ ไม่ได้เริ่มจาการเป็นกระเป๋าสะพายเพื่อรันวงการแฟชั่นแต่อย่างใด แต่คือแบรนด์กระเป๋าเดินทางที่ผู้คนนิยมใช้ เพราะความทนทาน และดีไซน์ที่สวยงาม น่าหลงใหล จนใคร ๆ ก็อยากมีไว้ในครอบครอง
ประวัติ ‘Louis Vuitton’
ชื่อแบรนด์ ‘Louis Vuitton’ นั้นมีที่มาจากชายชาวฝรั่งเศสผู้เริ่มต้นจากการทำหีบและกล่องเก็บของในปารีสนั่นเอง หลุยส์ วิตตอง ในวัย 14 ปีได้เดินทางออกจากบ้านเกิด มาที่ปารีสเพื่อมาฝึกงานการทำหีบใส่ของที่ใช้ในระหว่างเดินทางกับ Monsieur Marechal ช่างทำหีบที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ณ ช่วงเวลานั้น ด้วยความประณีตและหัวก้าวหน้าของหลุยส์ ทำให้เขาทำงานได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ จนได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยดูแลหีบและกล่องเสื้อผ้าของพระราชินี Eugenia de Montijo ของกษัตริย์นโปเลียนที่ 3 ด้วยเหตุนี้ทำให้ชื่อเสียงของหลุยส์เป็นที่รู้จักมากขึ้นในแวดวงของคนชั้นสูง
หลังจากนั้นเขาได้ออกมาเพื่อเปิดร้านเป็นของตัวเองบนถนน Rue Neuve des Capucines ในปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งได้รับความนิยมในช่วงนั้นเป็นอย่างมากเช่นกัน โดยผลงานอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของหลุยส์คือการปฏิรูปรูปแบบเดิม ๆ ของหีบเดินทางที่มีลักษณะฝาเป็นทรงโค้ง ให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าทั่วไป ทำให้จัดเก็บง่ายและสะดวกมากขึ้น รวมถึงเปลี่ยนจากการใช้หนังเป็นการใช้ผ้าใบทำให้หีบนั้นมีความทนทานมากขึ้น เพราะคุณสมบัติของผ้าใบ คือ มีน้ำหนักเบากว่า และมีประสิทธิภาพในการกันน้ำ ด้วยเหตุนี้เองที่ส่งผลให้ร้านของหลุยส์ เป็นที่นิยมเพิ่มากขึ้นอีกด้วย
Louis Vuitton นั้นเพิ่งจะมาทำ กระเป๋าถือขายครั้งแรกเมื่อปี 1892 หลังจากเปิดร้านมาได้ 38 ปีตั้งแต่ปี 1854 และแน่นอนว่าปารีส คือแหล่งรวมของแฟชั่นในยุคนั้นและเป็นเมืองมีดีไซน์เนอร์ชื่อก้องโลกอาศัยอยู่มากมาย หนึ่งในนั้น คือ Coco Chanel หรือที่เรารู้จักกันในนามของผู้ก่อตั้งแบรนด์ CHANEL นั่นเอง เธอเองก็เป็นหนึ่งในลูกค้ากิตติมศักดิ์ของแบรนด์ Louis Vuitton ด้วย โดยโคโค่ได้สั่งผลิตกระเป๋าถือรุ่นพิเศษสำหรับการใช้งานส่วนตัว ซึ่งต่อมาแบรนด์ก็ได้ผลิตกระเป๋ารุ่นนี้ออกมาจำหน่ายในชื่อรุ่น Alma
อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้หากพูดถึงกระเป๋าแบรนด์ Louis Vuitton คือลายโมโนแกรมอันโด่งดังของแบรนด์นั่นเองจาก นอกจากความสวยงามในการดีไซน์กระเป๋าแล้ว แท้ที่จริงลวดลายนี้ถูกคิดค้นเพื่อป้องกันกันก๊อปปี้ผลงานอีกด้วย นับตั้งแต่กระเป๋าเดินทางแบรนด์ Louis Vuitton มีชื่อเสียงมากขึ้นก็พบการลอกเลียนแบบมากมาย จนทำให้แบรนด์ต้องออกแบบลายตารางที่เรียกว่า Damier เพื่อแก้ปัญหานี้แต่ยังคงเป็นลายที่ลอกเลียนแบบได้ง่าย แต่หลังจาก Georges Vuitton ลูกชายของ Louis Vuitton ได้ก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าของแบรนด์หลังจากที่พ่อของเขาเสียชีวิตไป จอร์จได้นำเอาลายโมโนแกรมที่มีอักษรย่อ LV ที่เป็นทั้งชื่อแบรนด์และชื่อพ่อของเขา รวมถึงลายดอกไม้สี่แฉกแบบโปร่ง แบบทึบ และแบบกลม แบบเหลี่ยม มาใช้บนกระเป๋าหลุยส์เพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบ และสัญลักษณ์อันโดดเด่นนี้ก็ถูกส่งต่อมาจนกลายมาเป็นตัวแทนความคลาสสิคของแบรนด์ Louis Vuitton จนถึงปัจจุบัน
นอกจากจะเป็นแบรนด์ที่คลาสสิค อยู่คู่กับวงการแฟชั่นมาอย่างยาวนานแล้ว Louis Vuitton ยังน่านับถือในแง่ของการเป็นแบรนด์ที่ไม่หยุดพัฒนา เริ่มตั้งแต่สมัยของจอร์จ วิตตองที่พาแบรนด์ Louis Vuitton ออกไปประสบความสำเร็จระดับโลก นอกจากจอร์จจะพัฒนาลายโมโนแกรมอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว เขายังมีแนวคิดในการดึงตัวดีไซน์เนอร์ระดับโลกมาทำงานร่วมกับแบรนด์ Louis Vuitton อีกด้วย หนึ่งในนั้น คือ Marc Jacobs อดีตครีเอทีฟไดเรคเตอร์ชื่อดังของ Louis Vuitton มาร์ค คือ ผู้ริเริ่มเห็นช่องทางการทำสิ่งใหม่ ๆ ให้กับแบรนด์ Louis Vuitton ไม่ว่าจะเป็นการผลิตเสื้อผ้า การดึงศิลปินระดับโลกมาออกแบบให้กับกระเป๋า ทั้ง Stephen Sprouse ศิลปินชื่อดังชาวอเมริกัน และ Takashi Murakami และ Yayoi Kusuma ศิลปินชื่อดังชาวญี่ปุ่น โดยเฉพาะรุ่น Multicolor Monogram ที่ออกแบบร่วมกันกับ Takashi Murakami ที่แม้จะกลายเป็นกระเป๋า Louis Vuitton มือสอง ก็ราคาดีไม่มีตก
แบรนด์ Louis Vuitton กับการเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราเหนือคำบรรยาย
ในปัจจุบันกระเป๋าแบรนด์ Louis Vuitton อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทแม่ คือ LVMH (Louis Vuitton Moet Hennessy) ถึงแม้ว่าในวงการกระเป๋า luxury brand จะมีคู่แข่งของแบรนด์อยู่มากมาย แต่แบรนด์ Louis Vuitton ยังเป็นแบรนด์ที่ทำกำไรได้มากที่สุดในโลก และมี brand value มากที่สุดในโลกอีกด้วย (ข้อมูลปี 2016) อาจเป็นเพราะการคงไว้ซึ่งคุณค่าของแบรนด์ที่ทางแบรนด์พยายามรักษามาตรฐานไว้อยู่ตลอด อย่างเช่น การทดสอบความทนทานของกระเป๋าซ้ำ ๆ เพื่อรักษามาตรฐานของการเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความทนทาน หรือการทำลายสินค้าที่มีตำหนิ หรือชำรุดทิ้งทันทีเพื่อป้องกันสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานหลุดออกสู่ตลาด เหตุเหล่านี้เองเป็นผลให้แม้เป็นกระเป๋า Louis Vuitton ก็ยังมีราคาดีไม่มีตก และหากยิ่งเป็นกระเป๋า Louis Vuitton มือสองรุ่น limited edition จะทำให้ราคายิ่งพุ่งสูงขึ้นด้วย
