เหล่า Fashionista หรือ Designer หลาย ๆ คนคงจะรู้จักกันดีอยู่แล้วว่า หนัง Epsom คือหนังที่ HERMÈS นำมาใช้ในการผลิตกระเป๋า และได้รับความนิยมมากที่สุดในบรรดาหนังกว่า 60 ชนิดที่ HERMÈS เลือกใช้ สำหรับคนที่สนใจอยากจะได้น้องกระเป๋า HERMÈS มาไว้ในครอบครองสักใบก็ต้องมาทำความรู้จักกับหนัง Epsom ให้ดีเสียก่อนว่ามีลักษณะและคุณสมบัติแบบใด รวมถึงวิธีการดูหนัง Epsom ให้สวยนาน ราคาไม่ตก แน่นอนว่าข้อมูลทั้งหมดนี้ Brandname Exchange ร้านรับซื้อ Hermes ได้รวบรวมมาให้คุณแล้ว
หนัง Epsom คืออะไร
หนัง Epsom คือหนังวัวที่มีการปั๊มหนังนูนให้เป็นลวดลายลามิเนต (laminated) หรือที่เรียกกันว่าลายเกรน (Grained) ที่ดูสวยงามและเป็นธรรมชาติ ซึ่งจุดเด่นของหนัง Epsom คือ มีน้ำหนักเบา ทำความสะอาดง่าย แต่มีโครงสร้างที่แข็งแรง ทนทาน ซึ่ง HERMÈS นิยมใช้หนัง Epsom ในการผลิตกระเป๋าที่มีทรงตั้งแข็งเป็นรูปอย่างกระเป๋ารุ่น Kelly
ความแตกต่างของ หนัง Epsom กับหนังชนิดอื่น
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนของหนัง Epsom กับหนังชนิดอื่น ๆ ที่ HERMÈS นิยมใช้ก็คือ หนัง Epsom จะมีการปั๊มหนังให้เกิดเป็นลวดลายลามิเนตหรือลายเกรน ต่างจากหนังชนิดอื่นที่จะไม่มีการปั๊มหนัง และมักจะมีลวดลายของหนังสัตว์ดั้งเดิมอยู่ นอกจากนี้ หนัง Epsom ยังมีความแข็ง ทำให้กระเป๋าดูเป็นทรงมากกว่าหนังชนิดอื่นที่มีความนิ่มและไม่เป็นทรง
Sellier VS Retourne
อย่างที่เราได้บอกไปข้างต้นว่า หนัง Epsom คือหนังที่นำมาใช้ในการผลิตกระเป๋ารุ่น Kelly ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ซึ่งในกระเป๋ารุ่น Kelly นี้ก็มีสไตล์ให้ลูกค้าเลือกทั้งหมด 2 สไตล์ด้วยกันคือ Sellier & Retourne ซึ่งทั้ง 2 จะมีความแตกต่างกันอย่างไร ไปดูกันเลย
สไตล์ Sellier
กระเป๋ารุ่น Kelly สไตล์ Sellier จะมีรูปทรงบริเวณของที่คมและแข็งแรง หรือที่เรียกว่า “Rigide” ด้วยการเย็บเข้ามุมจากภายนอกที่แข็งแรง และไม่สามารถมองเห็นตะเข็บจากการเย็บได้
สไตล์ Retourne
กระเป๋ารุ่น Kelly สไตล์ Retourne จะมีขอบที่โค้งมน สามารถมองเห็นตะเข็บจากการเย็บได้ ทำให้มีรูปร่างที่ดูนุ่มนวลมากกว่าสไตล์ Sellier โดยสไตล์ Retourne จะเป็นการกลับกระเป๋าเอาด้านในออกแล้วค่อยทำการเย็บ ในบางครั้งกระเป๋าสไตล์นี้จะถูกเรียกว่า “Souple”
แจก Tips 5 วิธีดูแลกระเป๋าหนัง Epsom ให้สวยนาน ไม่เก่า ราคาไม่ตก
1. ไม่ควรโดนน้ำหรือความชื้น
น้ำที่โดนกระเป๋าและถูกระเหยไปจะดูดน้ำมันในหนังให้หายไปด้วย ทำให้หนังแข็ง และมีรอยแตก รวมถึงยังทำลายสารเคลือบต่าง ๆ ที่ปกป้องกระเป๋าหนังให้เสื่อมสภาพลง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดรอยด่าง กลิ่นเหม็นอับจากความชื้นสะสม และเชื้อราได้ ดังนั้น หากต้องการให้หนังยังคงสภาพดีอยู่ ก็ควรหลีกเลี่ยงน้ำหรือความชื้นให้ได้มากที่สุด
2. เก็บไว้ในที่แห้ง อุณหภูมิห้อง
ด้วยอากาศของประเทศไทยที่เป็นอากาศแบบร้อนชื้น การเก็บกระเป๋าไว้ในตู้ที่อากาศไม่ถ่ายเท และอยู่ในห้องหรือบริเวณที่มีแดดจัดเป็นประจำ ความร้อนที่สะสมอยู่ภายในห้องจะทำให้หนังกรอบหรือแตกได้ นอกจากนี้ยังควรนำสารกันชื้นไปวางไว้ในตู้เก็บกระเป๋า รวมถึงนำกระเป๋าออกไปผึ่งลมเป็นประจำ เพื่อป้องกันไม่ให้หนังเกิดรอยแตก หรือมีรอยด่างจากความชื้น
3. ระวังรอยขีดข่วน
สิ่งสำคัญที่ควรระวังคือ รอยขีดข่วนที่เกิดจากของมีคม เพราะรอยขีดข่วนที่เกิดขึ้นนั้นไม่สามารถแก้ไขได้ หรือหากแก้ไขได้ก็จะไม่กลับมาสวยเหมือนเก่า ดังนั้น จึงไม่ควรระมัดระวังเมื่อใช้ของมีคมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนที่ไม่สามารถแก้ไขได้กับกระเป๋าหนังใบโปรดของคุณ
4. เลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดให้เหมาะกับหนัง
หนังแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ทำให้การทำความสะอาดก็จะมีความแตกต่างกันตามไปด้วย ในส่วนของหนัง Epsom ที่เป็นหนังแท้ ก็ควรจะใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหนังแท้โดยตรง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคราบหรือรอยด่างบนหนัง
5. ไม่ควรใส่ของที่มีน้ำหนักมากเป็นประจำ
แม้ว่าหนัง Epsom จะมีความแข็งและเป็นรูปทรง แต่หากใส่ของที่มีน้ำหนักมากเป็นประจำ ก็จะทำให้หนังย้วยเสียรูปได้ ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อหนังย้วยจนเสียรูปแล้ว จะไม่สามารถทำให้กลับมาแข็งเหมือนเดิมได้ และต่อให้นำไปขายกับร้านรับซื้อ Hermes มือสอง ก็จะไม่ได้ราคาดี ๆ หรือขายไม่ได้ ดังนั้น หลีกเลี่ยงการใส่ของหนัก ๆ จะดีกว่า
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Epsom ที่ Brandname Exchange ได้รวบรวมมาให้ คาดว่าหลายคนก็น่าจะรู้จักว่าหนัง Epsom คือหนังอะไร มีความแตกต่างและวิธีดูแลอย่างไรกันไปแล้ว หากตกหลุมรักเจ้าหนัง Epsom ที่ใช้ในการผลิตกระเป๋า HERMÈS รุ่น Kelly กันขึ้นมาแล้ว ก็สามารถเข้ามาเลือกซื้อได้ที่ Brandname Exchange ซึ่งร้านของเรารับซื้อ Hermes และรับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองคุณภาพดี ทำให้มีสินค้าให้คุณเลือกมากมาย